2551/09/11

ด่วน!สภาล่ม หมัก แห้วนายกฯ ชัย สั่งเลื่อนไปประชุม

ประชุมสภาเพื่อลงมติเลือก สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯรอบสองล่ม ประธานสภาฯ สั่งเลื่อนไปประชุมวันที่ 17 กันยายน ด้าน5 พรรคร่วมรัฐบาลแจ้งขอถอนตัว หากพรรคพลังประชาชนยังต้องการเสนอ สมัคร เป็นนายกฯรอบสอง

12ก.ย.)เวลา 09.40 น. มีการประชุมสภาผู้แทนราษฏร โดยนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฏร เป็นประธานที่ประชุม นายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะสส.พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นเสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีเสียงสนัยสนุน 144 จากผู้เข้าร่วมประชุม 145 คน จากนั้นมีผู้เสนอให้นับองค์ประชุม ผลการนับปรากฏว่า มีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 161 คน นายชัย ชิดชอบ จึงสั่งเลือ่นการประชุมไปวันที่ 17 กันยายน เวลา 09.30 นลือสะพัด!! 5 พรรคร่วมรัฐบาลแจ้งขอถอนตัว รายงานข่าวจากพรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. แกนนำแต่ละพรรคได้โทรศัพท์แจ้งไปยังแกนนำพรรคพลังประชาชน ว่า จะไม่ขอร่วมประชุมเพื่อเลือกนายกฯในวันนี้ และถ้าพรรคพลังประชาชนยังดึงดันจะเสนอนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯต่อไป พรรคร่วมทั้งหมดก็จะถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายไชยา สะสมทรัพย์ รักษาการ รมว.พานิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคชาติไทยไม่เข้าร่วมประชุมโหวตเลือกนายกฯ ว่า ไม่เข้าหรือ หากไม่เข้าก็ยุบสภา ผู้สื่อข่าวถามว่าต้องปเลี่ยนนายกฯหรือไม่ นายไชยา กล่าวว่า ก็ยุบสภา ผู้สื่อข่ายรงายงานว่า เวลา 08.45 น.ขบวนรถนายสมัคร สุนทรเวช ได้มาถึงอาคารรัฐสภาซึ่งขบวนรถได้เข้ามาวนในสภา แต่นายสมัครไม่ได้ลงและรถได้วนรถขึ้นมาจอดชั้นสองและยังไม่ลงจากรถจนถึงขณะนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 08.55 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯได้เดินทางมายังอาคารสภา โดยขึ้นทางตึกวุฒิสภา เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นม็อบมาให้กำลังใจหรือไม่นายสมัครบอกว่าไม่เห็น ผู้สื่อข่าวถามว่าจะไปพบม็อบหรือไม่นายสมัครตอบว่าไม่ไป พร้อมกันนี้นายสมัครได้ทักผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดีว่า รู้ได้อย่างไรว่าตนจะมาทางตึกวุฒิ ต่อมาเวลา 09.00น.นายสมศักดิ์ ปริศนานันกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้พรรคกำลังประชุมแต่คงไม่ร่วมประชุมสภาและในการประชุมดังกล่าวพรรคกำลังหาเหตุผลในการไม่มาร่วม

ขอขอบคุณ www.sanook.com

โดย นางสาวศศิวิมล ศักรภพน์กุล

ID : 5131601506 Section 2

สำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง



อีสานพัฒนาลั่นไม่เอา สมัคร จะโหวตค้าน100 คน

อีสานพัฒนาลั่นจะมี ส.ส.พรรคพลังประชาชนร่วม 100 คนโหวตขวาง "สมัคร" นั่งนายกฯรอบ 2 พรุ่งนี้ ท้าแกนนำพรรคฯตั้งกก.สอบ "ศักดา"ยันต้องสลายแก๊งค์อ็อฟโฟร์ ด้าน"หมอเลี๊ยบ" เรียกประชุมพรรคอีกรอบค่ำนี้ "ปรีชา"ระบุงดออกเสียงแน่



ไม่เอาสมัคร


เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 11 กันยายน นายไพจิตร ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน ในฐานะแกนนำกลุ่มอีสานพัฒนาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชาชน เรียกประชุมส.ส.อีกครั้งว่า ขอยืนยันว่าส.ส.ส่วนใหญ่ในพรรคขณะนี้ซึ่งรวมตัวกันเหนียวแน่น ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคกลางบางส่วน ประมาณเกือบ 100 คนจะรวมตัวกันเพื่อแจ้งจุดยืนของกลุ่มต่อที่ประชุมพรรคเย็นนี้ (18.00น.) ว่ากล่มจะไม่ยกมือโหวตรับนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมตรีอีกครั้งแน่นอน เพราะเห็นว่าสถานการณืขณะนี้ไม่เหมาะสมที่นายสมัครจะเป็นนายกฯ "อย่างไรก็ตามหากพรรคจะอ้างมติพรรคหรือลงโทษส.ส.ที่ยกมือสวนโหวต โดยใช้ข้อบังคับพรรคมาอ้าง เราก็จะแย้งว่าส.ส.มีเอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญและขอท้าแกนนำที่สันบสนุนนายสมัครให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนทางกลุ่มส.ส.ที่ไม่เห้นด้วยได้เลย" นายไพจิต กล่าว นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ขณะนี้ไม่ใช่เฉพาะส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา แต่ยังมีส.ส.กลุ่มอื่นที่มีแนวโน้มว่าจะไม่ยอมรับนายสมัครแต่ยังสงวนท่าทีอยู่ ซึ่งกลุ่ม ส.ส.ที่สนับสนุนายสมัครมีเพื่อกลุ่มเพื่อนเนวิน ซึ่งเป็นส.ส.กลุ่มน้อย ดังนั้นหากขู่ว่าจะลงโทษหากทางกลุ่มโหวตสวนมติพรรคในวันพรุ่งนี้ ทางกลุ่มก็จะเสนอว่ากลุ่มที่สนับสนุนนายสมัครซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยควรจะออกจากพรรคไปแทน อย่างไรก็ตามในฐานะที่ตนออกมาตรวจสอบกลุ่มแก๊งออฟโฟร์ยอมรับว่าการแสดงท่าที่ของกลุ่มอีสานพัฒนาที่ขัดแย้งกับเพื่อนเนวินมีเจตนาที่ต้องการแสดงแก๊งออฟโฟร์และบุคคลที่อยู๋ใกล้ชิดนายสมัครให้ออกไปจากพรรคเนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับพรรคและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯด้วยการแอบอ้างชื่อเพื่อหาประโยชน์ในรัฐบาล 70ส.ส.พปช. ยันโหวตไม่เอา สมัคร




อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 17.00 น. ส.ส.พรรคพลังประชาชนส่วนหนึ่ง ประกอบด้วย แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา กลุ่มขุนค้อน กลุ่มโคราช ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และ กทม. ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายไพจิตร กล่าวว่า พวกตนประมาณ 70 คน เห็นตรงกันว่าขณะนี้พรรคยังไม่มีมติที่จะเสนอชื่อนายสมัครเพื่อให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี "และกลุ่มของเราเห็นตรงกันว่านายสมัครได้ทำภาระหน้าที่มาอย่างดี แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัน แม้เราจะไม่เห็นด้วยกับมติศาลแต่ก็ต้องเคารพคำพิพากษาของศาล และยังเห็นว่าควรที่จะเสนอชื่อบุคคลอื่นเพื่อให้สภาพิจารณา เพ่อที่จะทำให้บรรยากาศในทางการเมืองดีขึ้น ซึ่งพรรคจะมีการเรียกประชุมส.ส.เพื่อขอมติ เพื่อความรอบคอบและหากยังหาข้อยุติที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไม่ได้ทางกลุ่มก็จะขอให้พรรคเสนอต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฏร์ เพื่อเลื่อนการพิจารณาเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯออกไประยะหนึ่งน่าจะเป็นผลดี" นายไพจิตร กล่าว ด้านพ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ แกนนำกลุ่มโคราชกล่าวว่า ทางกลุ่มได้หารือกันเห็นว่า ขณะนี้ปัญหาบ้านเมืองเกิดจากปัญหาสะสมและนายสมัครไม่เหมาะสมที่จะเป็นนายกฯในภาวะนี้ เพราะจะเกิดความลำบากในการแก้ไข "เราจึงไม่สนับสนุนนายสมัครเพราะเกรงว่าบ้านเมืองจะเสียหายมากยิ่งขึ้น เราจะนำเรื่องนี้ไปเสนอต่อที่ประชุมพรรคเพื่อที่พรรคจะตัดสินใจอีกครั้ง ส่วนจะตัดสินใจอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง" พ.ต.ท.สมชาย กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามเห็นว่าบ้านเมืองขณะนี้ต้องอาศัยคนที่อ่อนน้อม ประนีประนอม นำพาบ้านเมืองไปสู่ความสงบเรียบร้อย ขณะที่นายพงษ์ศักดิ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร กล่าวว่า วันนี้สถานการณ์การเมืองเป็นอย่างนี้ หากจะให้นายสมัครมาเป็นนายกฯต่อไปอย่างที่ส.ส.ส่วนหนึ่งเห็นด้วย เราเห็นว่าจะเกิดปัญหาในเรื่องของวิกฤติบ้านเมืองซึ่งเราเกรงว่าจะเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร เราไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นแต่ต้องการให้ระบบรัฐสภา หรืออำนาจนิติบัญญัติแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ ผู้สื่อข่าวถามว่าหากที่ประชุมพรรคมีมติเสนอชื่อนายสมัครเป็นนายกฯ ทางกลุ่มจะดำเนินการอย่างไร นายไพจิตรกล่าวว่า เชื่อว่า พรรคจะมีการฟังความเห็นของสมาชิกจำนวน 70-80 คนที่ถือว่ามีความหมายที่จะทำให้พรรคเดินไปในทิศทางเดียวกัน หวังว่าจะมีการทบทวนให้เกิดความรอบคอบ เพราะมีสมาชิกที่เห็นต่าง ตนเชื่อว่าจะมีข้อยุติได้ และหากพรุ่งนี้(12กย)ยังไม่มีมติของพรรคก็ถือว่าพรรคจะให้โหวตตามอัธยาศัย หรือฟรีโหวต แต่ถ้าพรรคจะมีมติเราก็คงจะได้อภิปรายอย่างตรงไปตรงมาเพื่อหาข้อยุติที่ตรงกัน ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางกลุ่มจะโหวตสวนใช่หรือไม่ นายไพจิตรกล่าวว่า คำว่าเป็นเอกสิทธ์ก็คือส่วนใหญ่จะโหวตไปอีกทางหนึ่ง บางส่วนที่เกรงใจก็อาจจะงดออกเสียง หรือส่วนที่เกรงใจมากๆก้อาจจะโหวตตาม ในชั้นนี้ไม่ได้ลงในรายละเอียด อย่างไรก็ตามทางกลุ่มยังไม่มีชื่อบุคคลที่จะเสนอแทนนายสมัคร แต่เห็นว่ายังมีคนที่เหมาะสมอยู่พอที่จะทำงานประคับประคองพรรคได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการแถลงจุดยืน 6 พรรคร่วมรัฐบาล และแกนนำบางส่วนแยกไปคุยกับนายสมัครที่บ้านพัก ปรากฎว่าเมื่อเวลา 18.00 น.นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ได้เรียกประชุมส.ส.ด่วนเพื่อหาข้อสรุปบุคคลขึ้นมาเป็นนายกฯ "ปรีชา"ระบุงดโหวตให้"สมัคร"นั่งนายกฯ นายปรีดา เร่งสมบูรณ์สุข สส.พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ตนอยู่ในกลุ่มที่ไม่เอานายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯรอบ 2 เพราะมองแล้วว่าบ้านเมืองบอบช้ำมานานแล้ว นายสมัครเป็นนายกฯมา 7 เดือน นโยบายต่าง ๆที่แถลงต่อประชาชนไม่เด่นชัดเลย ตนก็ท้วงติงในที่ประชุมพรรคมาตลอด การจัดระเบียบของพรรคก็ไม่มีเลย และหัวหน้าพรรคก็ไม่ให้สมาชิกได้แสดงความเห็น "เราจะต้องมาดูทิศทางการเมืองด้วย เพราะทิศทางตอนนี้เป็นสุญญากาศ ต้องดูกระแสสังคมเอาอย่างไร และทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบ จะหาแนวทางอย่างไรให้สันติ ส่วนใครจะเป็นตัวแทนมาแทนนายสมัครซึ่งก็ได้คุยตั้งแต่เมื่อคืนแล้วก็ยังไม่ได้ข้อสรุป และมีการประชุมอีกในช่วงเช้า เพื่อหาทิศทางของพรรค และมีการถกเถียงกัน กลุ่มหนึ่งจะเอานายสมัคร แต่อีกฝ่ายไม่เอา ก็ตั้งตัวแทน 3 ฝ่าย ให้ไปบอกนายสมัครว่าพรรคร่วมบางพรรคไม่เห็นด้วยที่จะให้นายสมัคร กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง" นายปรีชา กล่าวและว่า ตนทราบว่านายสมัครเสนอตัวที่จะมาเป็นนายกฯอีกครั้ง ซึ่งพรรคร่วมบางพรรคก็ไม่เห็นด้วย และประชาชนก็ไม่เอา อยากจะให้มีคนกลางเข้ามา กลุ่มที่ไม่เอานายสมัครนอกจากกลุ่มอีสานพัฒนาแล้ว ยังมีทั้งกลุ่มทางเหนือ กรุงเทพฯ และภาคกลางบางส่วน "สำหรับวันพรุ่งนี้ เรามองประเทศชาติเป็นหลัก หาก พปช.เสนอ นายสมัคร ผมก็จะงดออกเสียง เพื่อไม่ให้เสียงถึงกึ่งหนึ่ง ก็อยากจะให้มาทบทวนอีกที" นายปรีชา กล่าว ขณะที่ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่าก ารแสดงท่าทีอย่างนี้แสดงว่ามีปัญหาก็จะต้องมาคุยกันในเย็นวันนี้ ตอนนี้ต่างคนต่างพูด ยังไม่ลงตัว ประชุมเย็นวันนี้ เพื่อพิจารณารายชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะเสนอให้พรรคร่วมได้พิจารณา





ขอขอบคุณ

โดย นางสาวศศิวิมล ศักรภพน์กุล ID : 5131601506
Section 2 สำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

อัยการปิดคดีฝังกลบทักษิณ

อัยการปิดคดีฝังกลบทักษิณ
วันที่ 10 ก.ย. นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานอัยการรับผิดชอบคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กำหนดให้โจทก์-จำเลยยื่นแถลงปิดคดีภายในวันที่ 10 ก.ย.ว่า ในส่วนของอัยการฝ่ายโจทก์นั้นได้ยื่นคำแถลงปิดคดีต่อศาลแล้วเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยคำแถลงปิดคดีมีความยาวกว่า 10 หน้า ซึ่งเนื้อหาเป็นการประมวลข้อเท็จจริงที่เป็นพฤติการณ์การกระทำผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ภริยา จำเลยทั้งสอง ตามคำฟ้องที่นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง และคำเบิกพยานโจทก์ ประกอบกับข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นมาให้ศาลเห็นว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดกฎหมายอาญา และ พ.ร.บ. ด้วยการป้องกันและการปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 อย่างไรบ้าง ซึ่งคำแถลงปิดคดีอัยการยืนยันที่จะให้ศาลพิพากษาสั่งริบที่ดินและเงินซื้อขายที่ดินมูลค่า 772 ล้านบาทเศษ ด้วยตามคำขอท้ายฟ้อง อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้คู่ความจะต้องรอวันฟังคำพิพากษา ที่ศาลฎีกาฯ กำหนดนัดไว้ในวันที่ 17 ก.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ซึ่งหากวันดังกล่าวจำเลยทั้งสองไม่มาฟังคำพิพากษา ก็ต้องรอฟังคำสั่งศาลว่าจะให้ออกหมายจับตัวมาฟังคำพิพากษา หรือจะอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยทันที เพราะเวลานี้ชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน อยู่ที่ประเทศอังกฤษ และจะไม่เดินทางกลับมา ด้าน นายคำนวณ ชโลปถัมภ์ หนึ่งในทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน กล่าวว่า หลังจากที่ทั้งสองประสงค์ที่จะถอนตนและทนายความอีก 5 คน จากการเป็นทนายความรับผิดชอบคดีนี้แล้วตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ตนและทีมทนายความ ก็ไม่ได้รับมอบหมายจากทั้งสองที่จะให้ยื่นคำแถลงปิดคดีแต่อย่างใด ซึ่งก่อนหน้านี้ในชั้นไต่สวนของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ทั้งสองได้ยื่นคำให้การไว้แล้ว และเมื่อยื่นฟ้องคดีในชั้นสอบคำให้การจำเลย ทั้งสองก็ยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรต่อศาลไว้เช่นกัน ดังนั้น การไม่ยื่นคำแถลงปิดคดีจึงไม่ส่งผลต่อรูปคดีที่จะทำให้จำเลยเสียเปรียบ หรือเสียโอกาสในการสู้คดี เพราะที่ผ่านมาฝ่ายจำเลยได้นำสืบพยานครบถ้วน และซักค้านพยานโจทก์เต็มที่แล้ว

ที่มา : http://www.banmuang.co.th/politic.asp?id=150897
โดย : นางสาว อนัญญา สืบสิน
ID. 5131601570 Section. 02