2551/09/12

พธม. ย้ำคำเดิมไม่รับนายกฯ จากพรรคพลังประชาชน [13 ก.ย. 51 - 12:49]



พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ร่วมกันแถลงข่าววันนี้ (13 ก.ย.) ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล โดย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯ จะยังคงชุมนุมอยู่ในทำเนียบรัฐบาลจนกว่ารัฐบาลชุดนี้ จะพ้นจากตำแหน่งไป ส่วนกรณีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ที่มีกระแสข่าวจะถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ นั้น กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ไม่ยอมรับ
แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวต่อว่า การจะยกเลิกการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ในเขตกรุงเทพฯ หรือไม่ ไม่มีผลต่อการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องเรียกร้องให้ยกเลิกเพียงแต่องค์กรที่เสนอให้มีการยกเลิก เพราะการบังคับใช้ไม่ได้ผล และส่งผลให้เศรษฐกิจเสียหาย
พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า เป็นเรื่องดีที่มีหลายฝ่ายแสดงความคิดเห็นต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เพราะการเมืองในระบบเก่าใช้ไม่ได้ผล จึงอยากให้ทุกฝ่ายร่วมแสดงความคิดเห็น อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า หากมีการเมืองใหม่เกิดขึ้นจะไม่รับตำแหน่งใดๆ
ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า อยากให้จับตา 5 วันอันตรายในช่วงนี้ ก่อนจะถึงวันที่ 17 ก.ย. ที่จะมีการตัดสินคดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และภริยา เพราะมีรายงานว่า มีประชาชนที่ยังสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณจะออกมาสร้างสถานการณ์ในช่วงนี้

ขอขอบคุณ www.thairat.co.th

โดย นางสาวศศิวิมล ศักรภพน์กุล

ID : 5131601506 Section 2

สำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

ชนกันแล้ว

แล้วจะไม่หน้าม้านเข้าหากันหรือมีคำถามอย่างนี้ เมื่อเกมชิงเหลี่ยม เพื่อชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ระหว่าง ส.ส.เหนือกับกรุงเทพฯ และอีสานพัฒนา
บางส่วน ที่มี “ยงยุทธ ติยะไพรัช” เป็นหัวหน้าใหญ่ เปิดศึกกับฝ่าย ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน โดยฝ่ายแรกจะชู “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
ในขณะที่ฝ่ายหลังยึดมั่น “สมัคร สุนทรเวช” ซึ่งศึกจบลงโดยฝ่ายเพื่อนเนวินชนะ เข็นสมัครกลับขึ้นสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีรอบ 2 ได้ฉลุยเกมเดินหักโค่นกันขนาดนี้แล้วรองนายกฯ สมชาย จะมองหน้านายกฯ สมัครได้สนิทใจอย่างเดิมหรือ ก็มีคำตอบว่า ยังมองหน้ากันได้อยู่ เพราะมีคนกลางเป็นผู้ประสานก็ถามว่าคนกลางคือใคร ตอบว่าก็คือ “ทักษิณ ชินวัตร”เกมหักโค่นที่จะดัน “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ขึ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรีที่สู้กันในช่วงวันที่ 9-11 ก.ย.51 ถึงขนาดที่ฝ่ายเหนือต้องขอพึ่งฝีมือของ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็น ส.ส.แล้วนั้น ว่าไปแล้วมันก็คือเกมเก่า ที่เคยปะทะกันมาแล้วในช่วงวันที่ 17-19 ส.ค.51 ที่ ส.ส.กรุงเทพฯ กับเหนือในสายของ “2 เจ๊” ไม่พอใจที่เห็นว่าหัวหน้าพรรคสมัคร ปล่อยปละละเลยให้ สตช.ประจานหมายจับ “ทักษิณ+พจมาน” ทั้งที่นายกรัฐมนตรีกำกับดูแล สตช. จึงพากันเข้าชื่อ 200 คน ทำจดหมายเปิดผนึกให้หัวหน้าพรรคมาชี้แจงในที่ประชุมพรรค โดย “สงคราม กิจเลิสไพโรจน์” เปิดหน้าเล่นเป็นคนส่งจดหมายด้วยตัวเอง ซึ่งผลจบลงโดยเย็น 19 ส.ค.51 สมัครถือดาบเข้าไปไล่ฟัน ส.ส.กลางที่ประชุมพรรคเลือดสาดไปเป็นแถบสมัคร ถามว่าจะหยุดมั้ย ถ้าไม่หยุดก็เลิกกันเลยตอนนี้ ปรากฏว่าพวกที่เข้าชื่อทำจดหมายเปิดผนึกเงียบกริบ เพราะคืน 18 ส.ค.51 “ทักษิณ ชินวัตร” โทรศัพท์มาถึง ส.ส.ที่เป็นแกนนำจะล่อสมัครให้เลิก ก็รีบเลิกหนังม้วนเก่ากลับมาอีก ส.ส.เหนือ กรุงเทพฯ อีสานพัฒนากลุ่มน้อย จะดัน “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” เป็นนายกรัฐมนตรีก็แพ้อีกคุณสมบัติที่คนอื่นไม่มี และทักษิณยังต้องพึ่งสมัครอยู่มี 2 ข้อ1.ความเป็นคนเลือดสีน้ำเงินของสมัครทำให้เบื้องบนเชื่อใจว่ายังไงก็ไม่คิดเป็นประธานาธิบดี2.เข้ากับทหารได้ดีแต่เวลานี้คุณสมบัติข้อ 2 ของสมัคร กำลังจะถูกท้าทายครั้งสำคัญ ในวันที่จะได้กลับขึ้นนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีรอบ 2 ด้วยการโหวตของ ส.ส.6 พรรคร่วมรัฐบาล 9 โมงครึ่ง ศุกร์ 12 ก.ย.51ใครก็รู้และเห็นภาพตลอด ถึงความสนิทชิดของผู้ชาย 2 คน สมัครกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดาสมัครโอ๋ทุกอย่าง ก็ขนาด พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหมของคณะปฏิวัติยังไม่กล้าเซ็นให้กองทัพบกซื้อรถเกราะโบราณลำเลียงพลของประเทศยูเครน แต่สมัครเซ็นให้ซื้อ และเพิ่งอนุมัติให้ซื้อปืนกล 5.56 มม. กระบอกละสองแสนกว่าบาทจากประเทศอิสราเอล ในการประชุม ครม.สัญจรที่อุดรธานี 8 ก.ย.51ขณะที่สมัครไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เช้า 11 ก.ย.51 ที่สนามบิน ขส.ทบ.ดอนเมือง ก่อนที่จะขึ้นเครื่องลงไปราชการภาคใต้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ได้แถลงกับนักข่าวว่า ได้เสนอต่อ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” รักษาการนายกรัฐมนตรีไปแล้วให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะเห็นว่าตำรวจใช้กฎหมายอื่นก็ทำงานได้ โดยขอให้ทหารเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานได้นี่คือการกระแทกครั้งสำคัญก่อนนี้สื่อไทยและเทศพากันวิเคราะห์ว่า การที่ พล.อ.อนุพงษ์ แถลงข่าวหลังได้เป็น ผอ.กอฉ.จะไม่ใช้กำลังเข้าสลายม็อบในทำเนียบรัฐบาล นั่นคือการที่สมัครสั่งทหารไม่ได้ และทันทีที่สมัครประชุม ครม.นัดพิเศษ ที่ บก.ทท. สั่งโอนอำนาจของรัฐมนตรีคนอื่นตาม พ.ร.บ. 20 ฉบับ มาเป็นของสมัครคนเดียว รวมทั้งการสั่งเคลื่อนย้ายกำลังรบก็ถูกสื่อวิเคราะห์ว่า สมัครยึดอำนาจคืน จนสมัครต้องออกมาแก้ว่า อำนาจที่โอนมานั้นยกให้ พล.อ.อนุพงษ์ในฐานะ ผอ.กอฉ.ไปหมดแล้ว แสดงว่ารัฐบาลไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์แต่การที่ พล.อ.อนุพงษ์ ยื่นข้อเสนอให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินขณะที่สมัครไม่ได้เป็นนายกฯ แล้ว ภาระหนักจึงทุ่มใส่น้องเขยทักษิณ ซึ่งก็บอกนักข่าวว่า จะต้องหารือกับผู้ใหญ่หลายฝ่ายก่อนจะยกเลิกเมื่อไหร่เซิร์น ยังไม่ปล่อยอนุภาคโปรตอนเข้าชนกันในการทดลองวันแรก แต่เด็กหญิงอินเดียฆ่ากันตายไปแล้ว 1 คน เพราะกลัวโลกถูกหลุมดำดูดหายวับไปพล.อ.อนุพงษ์ พุ่งเข้าชนรองนายกฯ สมชาย ก็ยังไม่รู้ว่าจะน่ากลัวเท่าการปล่อยอนุภาคโปรตอนชนกันหรือไม่ ก็คงระทึกมาก เพราะ พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ รักษาการโฆษกรัฐบาลแถลงออกมาแล้วในตอนบ่ายวันที่ พล.อ.อนุพงษ์แถลงข่าวว่ารัฐบาลจะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ต่อเมื่อม็อบพันธมิตรฯ ออกจากทำเนียบรัฐบาลชนกันโครมแล้วระวังหลุมดำวิจิตรา

ที่มา : http://www.banmuang.co.th/politic.asp
โดย : นางสาว อนัญญา สืบสินID. 5131601570 Section. 02