2551/08/31

เขตการปกครองของประเทศจีน


เขตการปกครองของจีน นั้น ตามรัฐธรรมนูญของจีน มีอยู่ด้วยกัน 3 ระดับ ได้แก่ มณฑล อำเภอ และ ตำบล แต่ในปัจจุบันได้เพิ่มมาอีก 2 ระดับ คือ จังหวัด และ หมู่บ้าน ซึ่งถ้านำมาเรียงใหม่จะได้เป็น มณฑล จังหวัด อำเภอ ตำบล และ หมู่บ้าน
สาธารณรัฐประชาชนจีนมีอำนาจการปกครองเหนือ 22 มณฑล และรัฐบาลจีนยังถือไต้หวัน เป็นมณฑลที่ 23 (มีข้อมูลเพิ่มเติมที่ ฐานะทางการเมืองของสาธารณรัฐจีน) รัฐบาลจีนยังอ้างสิทธิเหนือเกาะต่าง ๆ ในทะเลจีนใต้ด้วย นอกจากมณฑลแล้วยังมีเขตปกครองตนเอง 5 แห่งซึ่งมีชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่มาก เทศบาลนคร 4 แห่งสำหรับเมืองที่ใหญ่ที่สุดในจีน และเขตบริหารพิเศษ (Special Administrative Regions, SARs) ที่จีนเข้าไปปกครอง โดยการแบ่งพื้นที่การปกครองเป็นดัง


มณฑล
1. อันฮุย
2. ฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน)
3. กานซู
4. กว่างตง (กวางตุ้ง)
5. กุ้ยโจว
6. ไห่หนาน (ไหหลำ)
7. เหอเป่ย์
8. เฮย์หลงเจียง
9. เหอหนัน
10.หูเป่ย์
11.หูหนาน
12.เจียงซู
13.เจียงซี
14.จี๋หลิน
15.เหลียวหนิง
16.ชิงไห่
17.ฉ่านซี
18.ชานตง
19.ชานซี
20.ซื่อชวน (เสฉวน)
21.หยุนหนาน (ยูนนาน)
22.เจ๋อเจียง
เขตปกครองตนเอง
1. กว่างซีจ้วง (กวางสี)
2. มองโกเลียใน
3. หนิงเซี่ย หุย
4. ซินเจียงอุยกูร์
5. ทิเบต


เทศบาลนคร
1. เป่ย์จิง (ปักกิ่ง)
2. ฉงชิ่ง (จุงกิง)
3. ช่างไห่ (เซี่ยงไฮ้)
4. เทียนจิน (เทียนสิน)

เขตบริหารพิเศษของสาธารณรัฐประชาชนจีน
1. ฮ่องกง
2. มาเก๊า

ยืดเยื้อยาวนานครบ 100 วัน ชุมนุมพันธมิตรฯ


วันนี้ (1 ก.ย.) ถือว่า ครบ 100 วัน ของการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และครบ 7 วัน ของการชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังคงมีการคุมเข้มรักษาความปลอดภัยเช่นเดิม พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ได้เดินตรวจความเรียบร้อยรอบทำเนียบฯ ขณะที่บนเวทีมีการจัดรายการทางเอเอสทีวี ตามปกติ ทั้งนี้ยังไม่มีข้าราชการเดินทางมาทำงานแต่อย่างใด ขณะที่โรงเรียนบริเวณใกล้เคียงได้เปิดเรียนตามปกติแล้ว
ส่วนการจราจรโดยรอบ พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. มาตรวจสอบความเรียบร้อย และกล่าวว่า โรงเรียนในพื้นที่ถนนพิษณุโลกได้เปิดเรียนตามปกติ เนื่องจากใกล้วันสอบปลายภาค ซึ่งได้มีการระดมเจ้าหน้าที่จราจรกลาง 50 นาย คอยดูแลความเรียบร้อย พร้อมประสานแกนนำพันธมิตรฯ เปิดการจราจรช่วงกลางวันบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน
ขอขอบคุณ www.thairath.co.th [1 ก.ย. 51 - 11:36]
โดยนางสาวศศิวิมล ศักรภพน์กุล ID 5131601506
section 02 สำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

"ชวน"อภิปรายติ"สมัคร"ท้วงติงศาล


เมื่อเวลา 19.00น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นอภิปรายท้วงติงญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่ระบุถึงเหตุการณ์ที่เปิดขึ้นมีความบานปลายแม้นสถาบันศาลก็ไม่สามารถก็แก้ปัญหาได้ นายชวนได้ระบุว่าศาลได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แล้ว เป็นแต่เพียงปัญหาตามมาเป็นเพราะผู้ปฏิบัติ ดังนั้นการที่นายกรัฐมนตรีท้วงติงศาลเช่นนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง ความจริงแล้วปัญหาที่บานปลายอยู่ทุกวันนี้ดำเนินมาก่อนที่นายสมัครจะเข้ามาทำหน้าที่เสียอีก นอกจากนี้แล้วนายชวนยังได้อภิปรายถึงการทำหน้าที่สื่อของรัฐยังถูกแทรกแซงอยู่ อย่างไรก็ตามกระบวนการประชาธิปไตยดีกว่าก่อนนี้มาก
ขอขอบคุณ มติชน
โดย นางสาวศศิวิมล ศักรภพน์กุล
ID. 5131601506
Section 2

ชี้ทุกฝ่ายต้องช่วยแก้วิกฤติ อย่าหวังผลสภาสูงเกินไป

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าววันนี้ (31 ส.ค.) ระหว่างการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่มีการลงมติ เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการ เมืองในขณะนี้ ว่า ทั้งนี้ เกิดจากนายบรรหาร ศิลปอาชา สมาชิกรัฐสภาอาวุโส ให้ขอคิดว่า สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ รัฐบาลก็เอาไม่อยู่ ศาลก็เอาไว้ไม่อยู่ ทำไมสภาไม่ทำหน้าที่ จึงบอกด้วยความยินดีและทำหนังสือถึงสภาทันที โดยต้องขอบคุณนายบรรหารที่ได้มีเวทีนี้
นายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวต่อว่า บางทีคนเราก็ลืมสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด ทุกคนที่อยู่ข้างในก็ลืมว่า สถานของเรานั้น ถ้าจะเอาชื่อมาคุยกันคน 480 กับคน 150 จะได้มานั่งคุยกัน ทั้งหมดนี้ เป็นสถาบันที่เป็นตัวแทนของราษฎรจะได้พูดจากัน อย่างไรก็ตาม ขอเชิญชวนให้สมาชิกรัฐสภาได้โปรดแสดงความคิดเห็น ใครจะพูดจาแสดงความคิดเห็นอะไรเป็นสิทธิเสรีภาพแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ จะพูดอะไรอย่าได้ยั้งขอเชิญสมาชิกตนจะนั่งฝั่งตลอด ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จริงๆ นายกฯ อาจจะไม่ทราบว่า ก่อนที่นายบรรหารจะมีข้อเสนอนี้ ถึงนายกฯ ตนได้มาพบกับประธานวุฒิสภาและเสนอ แต่เนื่องจากพรรคฝ้ายค้านไม่มีสิทธิในการขอเปิดอภิปรายทั่วไปจึงได้มาแสดงเจตนาต่อประธานวุฒิสภาว่า กรณีวุฒิสภาต้องการเปิดอภิปรายทั่วไป แต่ติดขัดเงื่อนไขสมัยนิติบัญญัติก็ยินดีสนับ สนุนให้ดำเนินการได้ หลังจากนั้น พรรคฝ่ายค้านได้แถลงข่าวว่า กรณีที่รัฐบาลจะใช้เวทีแห่งนี้ ก็เห็นว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้อง
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวต่อว่า กราบเรียนว่า กระบวนการวันนี้ ตั้งใจมาฟังก่อนและช่วงท้ายจะให้ข้อเสนอ แต่อยากจะฟังจากสมาชิก โดยเฉพาะจากรัฐบาลและวุฒิสภา เพราะในส่วนของพรรคฝ่ายค้านที่มีอยู่พรรคเดียวได้ฟังความคิดเห็นแล้วและจะได้นำเสนอต่อที่ประชุมต่อไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า เราภาคภูมิใจในการเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย แต่ต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่ง โดยต้องย้อนกลับไปดูวิกฤติทางการเมืองทุกครั้งในประเทศไทยกลับคิดว่า มีน้อยครั้งมากที่กระบวนการนิติบัญญัติสามารถคลี่คลายปัญหาได้ โดยเฉพาะเหตุการพฤษภาก็ดี เหตุการณ์ในช่วง 6 ตุลาก็ดีกระบวนการนิติบัญญัติไม่สามารถคลี่คลายปัญหาได้ ดังนั้น อย่างตั้งความคาดหวังสูงจนเกินไป หรือ ประเมินตัวเองสูงเกินไป วิกฤติวันนี้ ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันคลี่คลาย
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวด้วยว่า การเมืองในยุคสมัยนี้ ไปไกลกว่าระบบการเมืองตัวแทนอย่างเดียว มีการเมืองภาคประชาชนที่ไม่ได้หมายถึงว่า ผูกติดอยู่กับกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด มีหลายกลุ่มที่ทำหน้าที่การเมืองภาคประชาชนอยู่ โดยที่กราบเรียน คือ อาจจะมองบทบาทสภาเป็นเพียงเสียงสะท้อนของประชาชน แต่ถ้าวันนี้ ประชาชนแตกแยกเราอย่าทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนความแตกแยกเพื่อขยายผล วันนี้ ถ้าอยากให้กระบวนการนิติบัญญัติมีความศักดิ์สิทธิ์มีความสามารถในคลี่คลายปัญหาสภาต้องทำหน้าที่มากกว่ากระจก โดยต้องเสนอทางเลือกและทางออกอย่างสร้างสรรค์
ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย : นางสาวศศิวิมล ศักรภพน์กุล
ID : 5131601506
Section : 02