2551/08/31

ชี้ทุกฝ่ายต้องช่วยแก้วิกฤติ อย่าหวังผลสภาสูงเกินไป

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าววันนี้ (31 ส.ค.) ระหว่างการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่มีการลงมติ เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการ เมืองในขณะนี้ ว่า ทั้งนี้ เกิดจากนายบรรหาร ศิลปอาชา สมาชิกรัฐสภาอาวุโส ให้ขอคิดว่า สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ รัฐบาลก็เอาไม่อยู่ ศาลก็เอาไว้ไม่อยู่ ทำไมสภาไม่ทำหน้าที่ จึงบอกด้วยความยินดีและทำหนังสือถึงสภาทันที โดยต้องขอบคุณนายบรรหารที่ได้มีเวทีนี้
นายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวต่อว่า บางทีคนเราก็ลืมสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด ทุกคนที่อยู่ข้างในก็ลืมว่า สถานของเรานั้น ถ้าจะเอาชื่อมาคุยกันคน 480 กับคน 150 จะได้มานั่งคุยกัน ทั้งหมดนี้ เป็นสถาบันที่เป็นตัวแทนของราษฎรจะได้พูดจากัน อย่างไรก็ตาม ขอเชิญชวนให้สมาชิกรัฐสภาได้โปรดแสดงความคิดเห็น ใครจะพูดจาแสดงความคิดเห็นอะไรเป็นสิทธิเสรีภาพแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ จะพูดอะไรอย่าได้ยั้งขอเชิญสมาชิกตนจะนั่งฝั่งตลอด ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จริงๆ นายกฯ อาจจะไม่ทราบว่า ก่อนที่นายบรรหารจะมีข้อเสนอนี้ ถึงนายกฯ ตนได้มาพบกับประธานวุฒิสภาและเสนอ แต่เนื่องจากพรรคฝ้ายค้านไม่มีสิทธิในการขอเปิดอภิปรายทั่วไปจึงได้มาแสดงเจตนาต่อประธานวุฒิสภาว่า กรณีวุฒิสภาต้องการเปิดอภิปรายทั่วไป แต่ติดขัดเงื่อนไขสมัยนิติบัญญัติก็ยินดีสนับ สนุนให้ดำเนินการได้ หลังจากนั้น พรรคฝ่ายค้านได้แถลงข่าวว่า กรณีที่รัฐบาลจะใช้เวทีแห่งนี้ ก็เห็นว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้อง
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวต่อว่า กราบเรียนว่า กระบวนการวันนี้ ตั้งใจมาฟังก่อนและช่วงท้ายจะให้ข้อเสนอ แต่อยากจะฟังจากสมาชิก โดยเฉพาะจากรัฐบาลและวุฒิสภา เพราะในส่วนของพรรคฝ่ายค้านที่มีอยู่พรรคเดียวได้ฟังความคิดเห็นแล้วและจะได้นำเสนอต่อที่ประชุมต่อไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า เราภาคภูมิใจในการเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย แต่ต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่ง โดยต้องย้อนกลับไปดูวิกฤติทางการเมืองทุกครั้งในประเทศไทยกลับคิดว่า มีน้อยครั้งมากที่กระบวนการนิติบัญญัติสามารถคลี่คลายปัญหาได้ โดยเฉพาะเหตุการพฤษภาก็ดี เหตุการณ์ในช่วง 6 ตุลาก็ดีกระบวนการนิติบัญญัติไม่สามารถคลี่คลายปัญหาได้ ดังนั้น อย่างตั้งความคาดหวังสูงจนเกินไป หรือ ประเมินตัวเองสูงเกินไป วิกฤติวันนี้ ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันคลี่คลาย
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวด้วยว่า การเมืองในยุคสมัยนี้ ไปไกลกว่าระบบการเมืองตัวแทนอย่างเดียว มีการเมืองภาคประชาชนที่ไม่ได้หมายถึงว่า ผูกติดอยู่กับกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด มีหลายกลุ่มที่ทำหน้าที่การเมืองภาคประชาชนอยู่ โดยที่กราบเรียน คือ อาจจะมองบทบาทสภาเป็นเพียงเสียงสะท้อนของประชาชน แต่ถ้าวันนี้ ประชาชนแตกแยกเราอย่าทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนความแตกแยกเพื่อขยายผล วันนี้ ถ้าอยากให้กระบวนการนิติบัญญัติมีความศักดิ์สิทธิ์มีความสามารถในคลี่คลายปัญหาสภาต้องทำหน้าที่มากกว่ากระจก โดยต้องเสนอทางเลือกและทางออกอย่างสร้างสรรค์
ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย : นางสาวศศิวิมล ศักรภพน์กุล
ID : 5131601506
Section : 02




2 ความคิดเห็น:

bibi กล่าวว่า...

ทุกฝ่ายควรช่วยกันรักษาความเป็นประชาะิปไตยของ
ไทยไว้ และควรที่จะใช้สันติวิธีในการแก้ไขปัญญาดีที่สุด

Weerapong puttason กล่าวว่า...

ร่วมมือกันนำพาประเทศให้เจริญก้าวหน้า
ดีกว่าเถียงกันเรื่องเรื่องไร้สาระในสภา
แล้วทำให้บ้านเมืองไม่เจริญ

นาย วีรพงศ์ พุทธสอน ID:5131601494 section 2