พังไปทั้งระบบ !!! ปั่นป่วนไปทั้งแผ่นดิน !!!
“วิกฤติชาติ” ครั้งนี้ ถือว่าหนักหนาสาหัส-สากรรจ์ยิ่งนัก ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
เป็น “วิกฤติชาติ” หนักหนาสาหัส-สากรรจ์ ที่ 3 สถาบันหลักชาติ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และ ฝ่ายตุลาการ ไม่อาจเป็น “กลไก” ขับเคลื่อนประเทศชาติได้อย่างเป็นปกติ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี หมดสภาพ หมดความชอบธรรม ในฐานะ “ผู้นำประเทศ” อย่างสิ้นเชิง เป็นการ “หมดความชอบธรรม” อย่างสิ้นเชิง ที่ถูกสังคมทุกภาคส่วนออกมาขับไล่ทั่วทั้งแผ่นดินทุกภาคส่วนที่ออกมาขับไล่ และขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น อธิการบดีหลายมหาวิทยาลัย คณาจารย์ นักวิชาการ นิสิต-นักศึกษา ภาคธุรกิจ สภาทนายความ วุฒิสภา ฝ่ายค้าน องค์กรภาควิชาชีพ องค์กรภาคเอกชน ฯลฯ ทุกภาคส่วนที่เห็นสอดคล้องในทิศทางเดียวกัน คือการแสดงจุดยืนให้ นายกรัฐมนตรี ลาออกหรือยุบสภา
ทว่า ความดื้อด้านของนายสมัคร ที่ประกาศไม่ยุบสภา ไม่ลาออก
ยืนยันเป็นรัฐบาลที่มาถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ได้ทำผิดอะไร และขออยู่ในตำแหน่งเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย
ยิ่งเป็นเงื่อนไขทำให้ “วิกฤติชาติ” ทรุดหนักยิ่งขึ้น
เป็นความ “ดันทุรัง” โดยไม่ฟังกระแสสังคม อย่างไร้ภาวะของ “นักปกครอง”
คำประกาศของนายสมัคร เช่นว่านี้ ได้สะท้อนถึงสภาวะ “ผู้นำ” ที่เสพติดอำนาจ จนมองไม่เห็นความฉิบหาย ป่นปี้ของประเทศชาติ
สะท้อนถึงสภาวะ “ผู้นำ” ที่หลงกิเลส-ตัณหาแห่งอำนาจ จนแยกไม่ออกระหว่าง “ความชอบธรรม” กับ “ไม่ชอบธรรม”
ยิ่งนายสมัคร พยายามตะแบง เทียบเคียงหากให้มีการเลือกตั้งใหม่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ชนะเลือกตั้งได้เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล และมีกลุ่มคนออกมาชุมนุมขับไล่ จะทำอย่างไร
ยิ่งนายสมัครตะแบง ยิ่งสะท้อนความเข้าใจ “ระบอบประชาธิปไตย” เพียงแค่ “เปลือก”
สะท้อนเป็นเพียง “นักเลือกตั้ง” ไม่ใช่ในฐานะ “ผู้ปกครอง”
นายสมัครอาจ “มืด-บอด-ใบ้” ในระบอบประชาธิปไตย ไม่เข้าใจการที่ “ประชาชน” ออกมาขับไล่ “ผู้ปกครอง”
ในระนาบเดียวกันทั้งประเทศ ได้อย่าง “ชอบธรรม” ไม่ใช่เรื่องทำกันได้ง่ายๆ
การขับไล่ที่ “ไม่ชอบธรรม” ต่างหาก ที่เป็นเรื่องยากที่จะออกมาขับไล่ “ผู้ปกครองที่ชอบธรรม” ให้ลงจากอำนาจไปได้
หากนายสมัคร ลดโมหะ ลดทิฐิ ละวางการเอาชนะคะคาน และนั่งส่องกระจกสำรวจตัวเองบ้าง
อาจมองเห็นความแตกต่างระหว่าง “ความชอบธรรม” กับ “ไม่ชอบธรรม”
นายสมัครต้องกลับไปสำรวจ “เงื่อนไข” ที่ทำให้ตัวเอง “หมดความชอบธรรม”
- เริ่มตั้งแต่ออกมายอมรับเป็น “นอมินี” เป็น “หุ่นเชิด” ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็น “อาชญากรแผ่นดิน”
- การแต่งตั้งบุคคลภาพลักษณ์ไม่ดี ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม เข้าดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรี” ภายใต้ระบบโควตา กลุ่ม
-ก๊วนการเมือง อย่างท้าทายสังคม- แต่งตั้ง นายไชยา สะสมทรัพย์ ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมชนชั้น “ผู้ปกครอง” กลับเข้ามาเป็น “รัฐมนตรี” ทันทีทันใด อย่างท้าทายสังคม ทั้งที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่ง ในความผิดไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สิน
- แต่งตั้ง อดีตแกนนำ นปก. เข้ามาเป็น “รัฐมนตรี” และมีบทบาททางการเมือง ทั้งที่มีพฤติกรรมจาบจ้วง “องคมนตรี” เป็นเรื่องที่สวนกระแสความรู้สึกสังคม- มีพฤติกรรมปลิ้นปล้อน กลับกลอก พยายามแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อหนีคดียุบพรรค เพื่อล้มกระบวนการตรวจสอบทุจริตของทักษิณ
- มีพฤติกรรมขายชาติ “เขาพระวิหาร” แม้แต่มติ ครม.ที่เห็นชอบแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา เรื่องสำคัญประเทศชาติ กลับไม่มีการเปิดเผยมติ ครม. เสมือน ครม.เป็นซ่องโจร ไม่ใช่สถานะฝ่ายบริหาร
- มีพฤติกรรมคุกคามสื่อ คุกคามประชาชน บ่อยครั้งและอย่างต่อเนื่อง
- แสดงความไร้วุฒิภาวะทางอารมณ์ ใช้วาจาหยาบคาย ต่อสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง- ขาดวุฒิภาวะผู้นำ ที่แสดงอารมณ์ไม่อยู่กะร่องกะรอย เดี๋ยวดี-เดี๋ยวร้าย เดี๋ยวร้องเพลง
-เดี๋ยวตาขวาง เดี๋ยวแตกหัก
-เดี๋ยวนุ่มนวล เดี๋ยวประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
-เดี๋ยวเลิกใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
- ใช้อำนาจรัฐปกป้อง นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อย่างไม่สนใจกระแสเรียกร้องสังคม
- มีพฤติกรรมชอบแอบอ้าง “เบื้องสูง” อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเครื่องมือในการดำรงสถานะรัฐบาล โดยเฉพาะการกล่าวถึง “เบื้องสูง” ว่า “เจ้านาย” เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
- มีพฤติกรรมที่แสวงหาผลประโยชน์จากงบประมาณแผ่นดินอย่างเปิดเผย โดยเฉพาะอาการลุกลี้ลุกลน การผลักดันโครงการเมกะโปรเจกต์หลายโครงการหลายแสนล้านบาท
- ใช้อำนาจรัฐแทรกแซง ทีวี NBT เป็นเครื่องมือบิดเบือนข่าวสาร เป็นกระบอกเสียงรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว
- ใช้อำนาจรัฐทำลายฝ่ายตรงข้าม ขณะเดียวกันกลับใช้อำนาจรัฐปกป้องพรรคพวกตัวเองฯลฯพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลทั้งหมดนี้ เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นว่านายสมัคร “หมดความชอบธรรม” ในฐานะผู้ปกครองอย่างสิ้นเชิง
แม้นายสมัคร มีความพยายามใช้กระบวนการศาลมาช่วยแก้ปัญหา ทว่าเป็นเพียงการยืมมือศาลมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
แม้นายสมัคร มีความพยายามใช้กระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติมาช่วยแก้ปัญหา ทว่าเป็นเพียงการยืมมือสภาฯ มาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อฟอกตัวรัฐบาล
แม้นายสมัคร มีความพยายามผลักดันทำ “ประชามติ” ทว่าเป็นเพียง เกม-ซื้อเวลา เพื่อเยื้ออยู่ในอำนาจรัฐ
แม้นายสมัคร มีความพยายามใช้ “กองทัพ” มาช่วยคลี่คลายปัญหา ทว่าเป็นการปัดภาระความรับผิดชอบไปให้ทหาร
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ไม่ยั่งยืน โดยที่เนื้อแท้ของปัญหายังดำรงอยู่
เป็นเพียงการยืมมือ “ศาล-สภาฯ-กองทัพ” เป็นเครื่องมือ “ฟอกตัวผู้นำ” ที่ไม่อาจฟื้นความชอบธรรมขึ้นมาได้
กุญแจดอกสำคัญ “ดอกเดียว” ในการแก้ “วิกฤติชาติ” เวลานี้
อยู่ที่ตัว นายสมัคร สุนทรเวชเป็น “กุญแจดอกเดียว” ที่จะไขไปสู่ “ทางออก” และหยุดยั้งความเสียหายของประเทศชาติเวลานี้
ทางออกที่ว่าคือ ยุบสภา หรือ ลาออก
นายสมัคร ต้องรีบตัดสินใจ บนความรับผิดชอบในฐานะ “ผู้ปกครอง” ก่อนที่ประเทศชาติจะฉิบหาย-บรรลัยไปมากกว่านี้
ที่มา : http://www.banmuang.co.th/POLITIC.ASP?id=150564
โดย : นางสาว อนัญญา สืบสิน
ID. 5131601570 Section. 02
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
5 ความคิดเห็น:
ประเทศชาติ
คงดีกว่านี้ ถ้ามีผู้นำประเทศ
ที่มีความรับผิดชอบ
ไม่ถืออำนาจตัวเองเป็นใหญ่
มีเหตุผล ในการตัดสินใจ
มีความรอบคอบในการบริหารประเทศ
เราควรจะมีการพัฒนา
ระบบการปกครองใหม่
ให้เป็นระบบ ระเบียบให้มากกว่านี้
การปกครองประเทศ
ยังคงต้องการคนที่ดี
มีความสามารถ
ประเทศต้องการผู้นำประเทศที่จริงจัง
ทุ่มเท ความตั้งใจ
ไม่ใช่โยนภาระหน้าที่
ของตนให้ผู้อื่นจัดการให้
การพัฒนาประเทศต้องอาศัย
ความร่วมมือของทุกฝ่าย
แต่ก็ต้อง มีผู้นำที่ดีด้วย
จึงจะพัฒนาไปในแนวทางที่ดี
ถ้าเรามีผู้นำที่ขาดประสิทธิภาพ
ก็จะไม่สามารถนำประเทศของเราไปใน
ทางที่มีคุณภาพได้
และก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้
นางสาวธิติมา ถนอมรอด
ID. 5131601352 section 02
ก็คนเรามันหน้าด้าน
ประเทศชาติวุ่นวายขนาดนี้ยังมาพูดอีกว่าไมใช้ความผิด
แล้วไม่ยอมลาออก
เห็นแก่ตัวชัดๆเลย
ถ้ารักประเทศจริงไม่ใช้ความผิดก็ลาออกได้
เพราะยังไงก็เป็นตัวสาเหตุ
ก็นายกคิดได้แค่นี้ประเทศมันถึงอยู่แค่นี้
ไม่พัฒนาสักที มีแต่ล่มจมลงทุกที
เมื่อไหร่นายกจะรู้จักมียางอายสักที
ประเทศชาติจะได้เจริญสักที
นางสาวจุฑาทิพย์ เม้าคำ
ID 5131601277 sec 02
แน่ใจหรอ?ว่าประเทศไทยใช้การปกครองระบอบประชาธิปไตย
มันไม่ใช่อำนาจของกลุ่มคนแค่กลุ่มเดียวหรอ?
ประชาชนทำอะไรไปคุณก็มองข้าม(หน้าด้าน)
เห็นประชาชนเป็นอะไร
ประชาชนไม่ต้องการให้คุณเป็นผู้นำ ประชาชนมัวแต่ขับไล่คุณอย่างนี้ จนไม่มีเวลาทำมาหากินแล้ว จะไปว่าพันธมิตรก็ไม่ได้ เค้าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม+ความแค้น(ส่วนตัว)ผลงานจึงออกมาในสภาพอย่างนี้
เฮ้อ!ประเทศจะเป็นยังไงต่อไปเนี่ย สังคมไม่สงบสักที
คุณยังจะอยู่อีกหรอ?
ในเมื่อประชาชนออกมาต่อต้านคุณอย่างนี้แล้ว
คุณลองคิดในใจดูซิว่าขนาดผู้ที่ต้องการแสดงเจตนารมย์ยังเยอะและรุนแรงขนาดนี้ แล้วคนที่ไม่ได้ออกมาแสดงอีกหล่ะ อีกตั้งเท่าไหร่
ทุกคนเรียกร้องที่จะมีผู้นำที่เป็นที่ยอมรับของประชาชน
ในเมื่อคุณไม่มีคุณสมบัติในข้อนี้คุณจะยังไม่ไปอีกหรอ?
ดูคุณจะมั่นใจในตัวเองมากเกินไปรึป่าว?คุณอาจคิดนะว่าคุณมาจากการเลือกตั้ง ซึ่งก็จริงมันอาจเป็นเสียงส่วนมากในสังคม
แต่คุณแน่ใจหรอ?ว่ามันมาโดยชอบธรรม คุณสนุกนักหรือ?ที่มีคนมาเรียกร้อง ต่อต้านจะเป็นจะตายกันอย่างนี้
คุณจะรอให้คนทั้งประเทศมารวมตัวกันแล้ว...คุณรึไง
คุณถึงจะไปจากเก้าอี้ แต่หากถึงวันนั้นจริงๆคุณก็คงไปไม่หมดทั้งตัวหรอก
นันทวัน ไชยพงษ์ ID5131601365 sect02
นั
ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ดีแล้วหรือคะ
ดีสำหรับประเทศชาติ ที่เรารักแล้วหรือ
Wanwisa Nuengkallaya
: 5131601484
แสดงความคิดเห็น